รีวิว To All the Boys I’ve Loved Before - แด่ชายทุกคนที่ฉันเคยรัก
ภาพยนต์วัยรุ่นแนวโรแมนติก น่ารัก แบบใสๆที่บรรดาคนชอบดูหนังทางสตรีมมิ่งของ Netflix ไม่ควรพลาดอีกเรื่อง ขอรับประกันความจั๊กจี้หัวใจเมื่อรับชม โดย To all the boys I’ve loved before นั้นดัดแปลงมาจากวรรณกรรมในชื่อเดียวกัน เป็นผลงานการเขียนของเจนนี่ ฮาน รีวิว To All the Boys I’ve Loved Before
เรื่องย่อ
เรื่องราวความโกลาหลแสนยุ่งเหยิงเริ่มต้นจาก หญิงสาววัยรุ่นมัธยมปี 5 “ลาร่า จีน” รับบทบาทโดย Lana Corder เธอได้เขียนจดหมายสารภาพรักกับชายหนุ่มที่แอบชอบไว้ถึง 5 ฉบับ แต่ทว่าไม่เคยมีใครได้อ่านมัน แน่นอนก็เพราะเธอไม่ได้ส่งมันออกไป เธอตั้งใจจะซ่อนมันไว้เป็นความลับไปตลอดกาล
แต่แล้ววันหนึ่งจู่ ๆ กล่องจดหมายเหล่านั้นก็หายไป ซ้ำร้ายลาร่ากลับพบว่าจดหมายลับเหล่านั้นได้ถูกส่งไปยังผู้รับเรียบร้อยแล้ว แต่ที่เลวร้ายที่สุดคือ หนึ่งในห้าคนที่ลาร่าเขียนถึงคือแฟนหนุ่มของผู้สาวของเธอเอง แต่ขณะเดียวกันเธอก็คิดแผนเอาตัวรอดออก นั่นคือทำข้อตกลงกับ “ปีเตอร์” รับบทบาทโดย Noah Centieno รักแรกตั้งแต่ตอนเป็นเด็ก ซึ่งตอนนี้เขาก็เลิกกับแฟนสาวแล้ว โดยเธอตั้งใจคบกับเขาเพื่อบังหน้าว่าไม่ได้ชอบแฟนพี่สาวตนเองแล้ว ส่วนเขาก็คบกับลาร่าเพื่อเป็นการยั่วแฟนเก่าของตัวเอง
หลายๆ คนคงจะเคยมีประสบการณ์แอบรักใครคนหนึ่งไม่ว่าจะเป็น เพื่อนร่วมชั้น รุ่นพี่ หรือรุ่นน้องกันใช่ไหมคะ แล้วสิ่งที่สำคัญในการจะแอบรักใครก็คือเราต้องมีการระบายความรู้สึกลงไปในไหนสักแห่ง ในยุคนี้คงเป็น Blog ส่วนตัว Note ในโทรศัพท์มือถือ หรือแม้แต่การระบายความรู้สึกผ่าน Status ใน Social แต่ก็ตั้งเป็นส่วนตัวเอาไว้อ่านคนเดียว และครั้งนี้ Netflix ขอทำให้มันคลาสสิกขึ้นด้วยการใช้ ‘จดหมายรัก’ ในหนังเรื่องนี้ ‘แด่ชายทุกคนที่ฉันเคยรัก
ขอรับรองว่าเรื่องนี้ต้องถูกจคอหนังโรแมนติก คอหนังแนววัยรุ่นอย่างแน่นอน การันตีด้วยรางวัล Best Kiss 2019 จาก MTV Movies Award เชียวนะคุณ เป็นฉากที่โรแมนติกมากเลยทีเดียวแหละ สำหรับเรื่องนี้ก็เป็นสูตรสำเร็จเหมือนหนังรักหลายๆเรื่อง โดยมีที่มาอ้างอิงจากนิยายในชื่อเรื่องเดียวกัน
แต่งโดย Jenny Han พล็อตไม่ได้เดาทางยากอะไรมาก ไม่มีอะไรซับซ้อน คุณอาจจะมองว่าน่าเบื่อ แต่ถ้าใครที่ชอบความโรแมนติกล่ะก็ เตรียมเก็บเรื่องนี้ไว้ในลิสต์หนังรักเรื่องโปรดที่ Made your day มากๆได้เลย หนังมักจะอ้างถึงอะไรที่อยู่ในยุคเก่าๆ อย่างหนังที่ตัวละครชอบดู หนังสือที่นางเอกชอบอ่าน
มันสื่อได้ถึงโรแมนติกคลาสสิก ผู้ชมในช่วงวัยผู้ใหญ่ดูแล้วคงได้จะกลับไปนึกถึงช่วงเวลาเก่าๆเหล่านั้น
แต่หากเป็นวัยหนุ่มสาวก็อาจจะมองว่ามันเป็นเรื่องที่น่ารักกุ๊กกิ๊กอะไรอย่างนี้ อย่างการทำข้อตกลงกันโดยเขียนออกมาเป็นข้อๆ การส่งข้อความสั้นๆด้วยกระดาษ มันอาจจะดูตลกแต่พอมาอยู่ในหนังเราก็ลืมความตลกนั้นไปหมดเลย
เนื้อเรื่อง
เรื่องราวของสาววัยไฮสคูลอย่างลอร่า จีน คัฟวีย์ (ลาน่า คอนดอร์) ซึ่งแอบตกหลุมรัก จอร์ช ซานเดอร์สัน (อิสราเอล บรูซาร์ด) แฟนหนุ่มของมาร์โก้ (จาเนล พาร์ริช) พี่สาวของตัวเอง! เพราะอารมณ์แอบรัก (แถมเป็นรักต้องห้าม) เธอจึงเขียนจดหมายเพื่อบรรยายความในใจที่ตัวเองรู้สึกต่อจอร์จ เอาไวในรูปแบบไดอารี่ซองจดหมาย โดยจอร์จคือผู้ชายคนที่ 5 ที่เธอตกหลุมรักแต่ไม่กล้าเอ่ยความจริงออกไป
จดหมายรักดังกล่าวที่ลอร่าเขียนไว้ถึงผู้ชายที่เธอตกหลุมรักในชีวิตทั้ง 5 คนควรจะเป็นความลับของเธอแต่เพียงผู้เดียว แต่จู่ๆจดหมายทั้งหมด ถูกส่งออกไปหาผู้ชายทั้ง 5 โดยปริศนา ทำให้เรื่องราวอลม่านเริ่มต้นขึ้น จนกระทั่งปีเตอร์ คาวินสกี้ (โนอาห์ เซนทิโน่) นักกีฬาสุดฮอตประจำโรงเรียนได้รับจดหมายจากลอร่า และตัดสินใจจะคบหาในฐานะแฟนแบบกำมะลอกับเธอ เพื่อประชดแฟนเก่าของเขา
แน่นอนว่าตามพล็อตดูหนังออนไลน์รักโรแมนติก ตัวละครอย่างลอร่าจะกลายเป็นสาวที่ต้องพยายามต่อสู้กับความรู้สึกเบื้องลึกในจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นความพยายามในการก้าวผ่านช่วงวัยรุ่นที่เต็มไปด้วยความสับสน และไม่รู้จะจัดการกับอารมณ์ของตัวเองยังไง การเปลี่ยนชีวิตจากสาวที่ไม่เคยมีใครสนใจ กลายเป็นมาเป็นคู่ควงของหนุ่มป๊อปประจำโรงเรียน ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังต้องสู้กับความรู้สึกในใจของตัวเองที่จะไม่ทำให้ตัวเองตกหลุมรักปีเตอร์ ทั้งที่ใจเธอก็ยังสับสนว่าจริงๆแล้วความรู้สึกข้างในใจตัวเองนั้น เธอรักใครกันแน่ระหว่างจอร์ชหรือปีเตอร์
ตัวละคร
ลาร่า – ด้วยความที่เป็นลูกครึ่งเกาหลี เธอมีการแต่งตัวแบบสาวเอเชีย ซึ่งทำให้สไตล์ดูโดดเด่นมาก ใสดูเข้ากับตัวเธอมาก ยิ่งเพราะเธอเป็นคนตัวเล็กด้วย อาจจะมีบางชุดที่ดูเด็กไปสักนิดแต่ก็ถือว่าอยู่ในระดับโอเค การที่เธอกล้าลงมือเขียนจดหมายจินตนาการถึงใครสักคน ไม่ได้หมายความว่าเธอก็แค่สาวช่างฝัน แต่เธอเป็นสาวนักรักตัวยง เธอรู้ว่าอะไรแบบไหนคือความโรแมนติก สังเกตได้จากการใช้ชีวิตที่ของเธอที่มักจะหมกมุ่นกับนิยายหรือการดูหนังและพูดทฤษฎีความโรแมนติก
ปีเตอร์ – ชายหนุ่มผู้เป็นรักแรกสมัย ม.1 ของลาร่า เป็นตัวละครที่เดาง่ายมาก มีลักษณะของพระเอกที่ตรงข้ามกับนางเอกทุกอย่าง เรียนไม่เก่งแต่เป็นนักกีฬา ในขณะที่ลาร่าแทบจะไม่มีตัวตนในสังคมโรงเรียนเลย ปีเตอร์เป็นตัวแทนของผู้ชายที่ดูเหมือนเป็นคนกะล่อนด้วยลุคและบทบาทเป็นนักกีฬาตัวท็อปของโรงเรียนแต่ข้างในแล้วเป็นคนที่ดีคนหนึ่ง ถือเป็นสเปคหนึ่งที่ผู้หญิงบางคนชอบ
จอช – ผู้ชายธรรมดา บ้านๆ และดูเป็นคนที่ทำอะไรตามใจแฟนมากกว่าที่จะแสดงความเห็นออกมา อย่างฉากลาร่าถามเรื่องน้ำที่ตอนโสดกับมีแฟนจะตอบคนละอย่างเลย หนังไม่ได้บอกที่มาที่ไปอีกเหมือนกันว่าทำไมจอชถึงเลือกคบกับมาร์โก
เจน (เจเนวีฟ) – ขอใช้คำโบราณอย่างคำว่า สาวป๊อบ ที่มักจะถูกสร้างมาให้คู่กับหนุ่มป๊อบประจำโรงเรียน อารมณ์แบบคู่จิ้นกัน แต่ในหนังรักมักจะไม่ได้ลงเอยกัน ในหนังได้วางไว้ให้เธอเคยเป็นเพื่อนสนิทของลาร่า แต่ก็ไม่ได้ลงรายละเอียดอะไรมากนัก
เรื่องของครอบครัว
สิ่งที่หนังยังใส่เข้ามาอีกก็คือเรื่องของครอบครัว ความรักระหว่างพี่น้อง ที่แม้จะไม่ใช่แก่นสำคัญนัก และใส่จุดดราม่าเล็กๆ ตรงที่ลาร่าแอบชอบแฟนของพี่สาวก็เท่านั้น แต่ด้วยความเป็นหนังที่มีพลังบวกสูงมาก ฉะนั้นดราม่าเหมือนใส่มาให้พอมีรสขมแต่หวานปลายก็พอ แต่ก็ต้องขอติว่ามีบางฉากที่ตัวละครแสดงสีหน้าแล้วเราไม่เข้าใจแล้วก็ไม่เฉลยอยู่บ้าง
หรือแม้แต่เรื่องรายละเอียดซีรี่ย์ Netflixเล็กน้อยที่แม้ไม่จำเป็นแต่ก็น่าจะเอามาใส่ไปบ้างเพื่อให้มีสีสันอีกหน่อยนอกจากความโรแมนติก และอีกอย่างที่ไม่โอเคคือพระเอกกับนางเอกไม่ค่อยจะพูดถึงเรื่องอื่นนอกจากเรื่องพ่อแม่ มันไม่แปลกที่จะปรับทุกข์ให้กันแต่อยากให้เพิ่มในส่วนอื่นบ้าง
ความโดดเด่นของตัวหนัง
ส่วนนี้ต้องยกให้มิติของตัวละคนที่แต่ละนักแสดงได้ตั้งใจถ่ายทอดออกมา ซึ่งทำได้ดีอย่างยิ่ง อย่างสาวลาร่า จีน ซึ่งเป็นสาวช่างฝัน เรียกได้ว่าเป็นสาวนักรักโดยตรง ซึ่งหากตั้งใจดูหนังเรื่องนี้จะเห็นได้ชัดเลยว่าลาน่า สามารถถ่ายทอดออกมาทางแววตาและรอยยิ้มได้ดี อีกทั้งเหล่าหนุ่ม ๆ ก็สามารถสร้างเอกลักษณ์ในตัวเองได้ลงตัวเนื่องจากทั้งห้าคนก็ต่างมีบุคลิกที่ต่างกันมาก ทำให้แต่ละคนมีความโดดเด่นเป็นตัวของตัวเองและนั่นก็ช่วยเสริมความโดดเด่นให้กับตัวหนังได้อีกด้วย
โดยรวม
ตัวเราค่อนข้างมั่นใจว่าหนังเรื่องนี้ต้องถูกใจคอหนังโรแมนติกอย่างแน่นอน การันตีด้วยรางวัล Best Kiss 2019 จาก MTV Movies Award เป็นหนังที่มีฉากโรแมนติกอบอุ่นหัวใจสวยงามอีกเรื่องหนึ่ง เรื่องราวชีวิตวัยรุ่นไฮสคูลหลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องว้าวุ่นที่ไม่น่าสนใจ
แต่ความจริงแล้วการที่เราพยายามทำความเข้าใจของเยาวชนนับเป็นเรื่องที่ดีและจำเป็นอย่างมาก เพราะคุณภาพชีวิตของคนในสังคมไม่ควรถูกละเลยเพราะสามารถพัฒนาเป็นปัญหาสังคมที่อาจแก้ไดยากและหยั่งลึกมากขึ้น
สรุป
เป็นหนังที่ made my day มาก ดูแล้วให้พลังบวกอย่างมหาศาล แต่หากใครที่ดูหนังแล้วต้องการความแปลกใหม่เรื่องนี้อาจจะไม่ได้ตอบโจทย์เท่าไรนัก และด้วยความที่หนังพยายามจะเอนไปทางคลาสสิก โทนของหนังก็จะมีสีสันไปทางซีเปียเก่าๆนิดๆ มันทำให้เข้าถึงอารมณ์ของหนังได้ดีทีเดียว ถ้าได้ดูกับคนที่ชอบแล้วพวกคุณคงจะอินมากเลยแหละ และเนื่องจากว่าผู้แต่งเขียนหนังสือสำหรับเรื่องนี้เอาไว้ 3 เล่ม เราก็หวังว่าจะได้มีหนังดีๆดูไปอีก 3 ภาคเลย