รีวิว Crash Landing On You - ปักหมุดรักฉุกเฉิน
ผลการร่วมมือล่าสุดระหว่าง Netflix, tvN และ Studio Dragon จากเกาหลีใต้ เรื่องราว โรแมนติด คอมเมดี้ แนบพรหมลิขิตเล็กๆ ระหว่าง ทหารหนุ่มความสามารถระดับเทพสุดหล่อจากเกาหลีเหนือ และ นักธุรกิจสาวรุ่นใหม่ไฟแรง แถมยังสวยสุดๆ จากเกาหลีใต้ รีวิว Crash Landing On You
เรื่องย่อ
‘ยุนเซริ (รับบทโดย ซนเยจิน)’ ทายาทสาวตระกูลดังในเกาหลีใต้ ที่กำลังเล่นร่มร่อนและเกิดอุบัติเหตุจนพลัดตกเข้าไปในเขตพื้นที่ของประเทศเกาหลีเหนืออย่างไม่ได้ตั้งใจ ทำให้เธอได้พบกับ ‘รีจองฮยอก (รับบทโดย ฮยอนบิน)’ เจ้าหน้าที่หนุ่มจากกองทัพของเกาหลีเหนือที่มาพบกับเธอเข้า และตัดสินใจไม่สังหารเธอตั้งแต่แรกเห็นตามที่กฎหมายได้บัญญัติเอาไว้ แต่เขากลับเลือกที่จะพาเธอไปซ่อนตัวและพยายามช่วยเธอให้หาทางกลับไปที่ฝั่งเกาหลีใต้ได้อย่างปลอดภัยในทันที โดยที่ทั้งเธอและเขาแทบไม่ได้รู้ตัวเลยว่า …ระยะเวลาที่พวกเขาได้อยู่ด้วยกันแม้ว่ามันจะสั้น แต่มันช่างมีความสุขมากกว่าที่ใดบนโลกใบนี้เสียอีก
ซีรีส์ฟอร์มยักษ์ส่งท้ายปีนี้อย่าง " Crash Landing On You ปักหมุดรักฉุกเฉิน " ที่เพิ่งออนแอร์ในเกาหลีใต้และถูกปล่อยบนช่องทาง Netflix ได้ไม่นานนัก ก็กลายเป็นกระแสพูดถึงอย่างล้นหลามบนโลกออนไลน์ในทันที แถมเรตติ้งของเรื่องนี้ก็ยิ่งทำลายสถิติตัวเองมากขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกสัปดาห์ เรียกได้ว่าสมกับที่เป็นซีรีส์เรือธงของเกาหลีใต้ในปีนี้เลยจริง ๆ
ที่สำคัญต้องยกความดีความชอบให้กับคู่พระนางขั้วแม่เหล็กระดับ A List อย่าง " ฮยอนบินและซนเยจิน " ที่คราวนี้กลับมารับบทนำคู่กันอีกครั้ง หลังจากที่เคยร่วมงานกันมาแล้วครั้งหนึ่งในภาพยนตร์เรื่อง " The Negotiation " ที่ทำเอาคนดูหนังฟรีฟินกระจายจนกลายมาเป็นคู่จิ้นที่แฟน ๆ ต่างก็ลุ้นอยากให้เป็นคู่จริงมันซะเลย ก็ทำได้ไงล่ะในเมื่อเคมีของทั้งคู่มันเข้ากั๊นนเข้ากันซะขนาดนี้ ซึ่งแน่นอนว่าใน Crash Landing On You เองก็มีฉากชวนจิ้นให้แฟน ๆ ได้เสพความฟินกันอย่างจุใจ
แถมคราวนี้ยังได้นักเขียนบทสายซีรีส์ โรแมนติก-เมโลดราม่า มือฉมังของฝั่งเกาหลีอย่าง " พัคจีอึน " ที่หลาย ๆ คนอาจเคยได้ชมผลงานสุดปังของเธอกันมาบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็น My Love From the Star (SBS,2013)และ Legend of the Blue Sea (SBS,2016)ที่เท่านี้ก็สามารถรับประกันได้เลยว่าคุณจะได้รับทั้งความสนุก คุ้มค่า และน่าจดจำไม่ต่างกับผลงานที่ผ่านมาอย่างแน่นอน
เนื้อเรื่อง
เป็นเรื่องราวความรักที่ดูไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ ระหว่างนายทหารเกาหลีเหนือ กับเศรษฐีนีเกาหลีใต้ แม้จะเปิดเรื่องมาด้วยหน้าเข้มๆ ของ ฮยอนบิน แต่หนังเรื่องนี้มีความเป็นหนังตลกนะ อาจจะไม่ได้ตลกเป็นบ้าเป็นหลัง แต่ก็มีเรื่องให้ขำๆ ได้ยิ้มๆ อยู่เป็นระยะ เรียกได้ว่ามีส่วนผสมที่ลงตัวไม่เครียดไป หรือไร้สาระไป กลมกล่อมฟินกันทุกตอนแน่นอน ซึ่งถ้าฟังๆ ดูแค่นี้อาจจะคิดว่านี่มันก็ซีรีส์โรแมนติกคอมเมดี้ทั่วไป
แต่ต้องยอมรับว่าซีรีส์หนังออนไลน์เกาหลีเก่งในเรื่องโยงเหตุการณ์ความสัมพันธ์ของตัวละครมาก และในเรื่องนี้เองดูเหมือนว่าตัวละครแต่ละตัวจะมีที่มาที่ไม่ธรรมดา มันต้องมีอะไรมาให้เราแปลกใจแน่นอน และอีกสิ่งที่เหมือนจะรู้สึกได้ว่ามีการส่งสัญญาณแปลกๆ คือ บ่อยครั้งที่ตัวละครโดยเฉพาะนางเอกชอบพูดเรื่อง “การรวมประเทศ” ขึ้นมาเป็นระยะๆ ส่วนเรื่องภาพที่หายห่วงเรื่องนี้ฉากสวยมาก CG ก็เนียนมาก การเซ็ตติ้งฉากต่างๆ ออกมาดูพรีเมี่ยมสุดๆ ผมบอกได้เลยว่า Crash Landing on You นั้นจะสนุกและน่าติดตามมากแน่นอน (แม้จะเพิ่งได้ดูไป 2 ตอนอะนะ)
**ในทุกตอน จะมี " End Credit " ก่อน ตัวอย่างตอนต่อไป นะ อย่าลืมแวะดูก่อนนะ**
ตัวละคร
รี จองฮยอก (ฮยอน บิน)
ร้อยเอกหนุ่มแห่งกองทัพเกาหลีเหนือ ชายโคตรเพอร์เฟค เก่ง, ฉลาด, นิ่ง, หล่อ, ไม่ถือตัว, เถรตรง, เป็นระเบียบ, รักความยุติธรรม, แอบมีตังค์ และทำอาหารเก่งอีกต่างหาก เขาเป็นที่รักและเคารพของ ลูกน้องภายในหน่อย รวมถึงชาวบ้านในระแวกค่ายทหารด้วย แต่กระนั้นประวัติของเขาก็ยังไม่เป็นที่เปิดเผยว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร มีเส้นสายแค่ไหน(ในตอนแรก)
ยุน เซรี (ซน เยจิน)
สาวนักธุรกิจที่มีความมั่นใจในตัวเองสูงมาก ขนาดตั้งชื่อแบรนด์ของเธอเองว่า “Seri’s choice” (เซรี เลือกสิ่งนี้) มีหัวการค้าระดับสุดยอด ลูกสาวคนเล็กของบ้านตระกูลยุน เธอมีพี่ชายอีก 2 คนแต่ไม่ได้เรื่องทั้งคู่…10ปีก่อนเธอออกจากบ้านมาทำธุระกิจเป็นของตนเอง และก็ประสบความสำเร็จแบบสุดๆ แล้วเธอก็ไม่กลับบ้านไปพึ่งเงินพ่อเธออีกเลย
กู ซึงจุน (คิม จองฮยอน)
นักธุระกิจหนุ่มจากเกาหลีใต้ ที่มีคดีช่อโกงติดตัว(โกงใครไม่โกงโกงคนใกล้ตัวนางเอกด้วย) จนต้องแอบลี้ภัยมาอยู่เกาหลีเหนือแบบเป็นความลับ เปิดตัวมาตอนแรกดูเข้มๆ คิดว่าจะมาเป็นตัวร้ายโหดๆ แต่ดูไปดูมา ดูว่าน่าจะมาเป็นตัวรองแบบติดตลกๆ ด้วยซ้ำ คงเอามาไว้เป็นเงื่อนไขกันชนให้พระเอกแน่ๆ แต่จะสร้างความประทับใจได้แค่ไหนคงต้องตามดูกันต่อไป
ซอ ดัน (ซอ จีเฮ)
เปิดตัวมาตอน 3 เป็นลูกเต้าเหล่าใครไม่ชัดเจน แต่ถ้าไม่รวยมากๆ ก็น่าจะมีตำแหน่งยิ่งใหญ่มากแน่นอน ตอนแรกคิดว่าเปิดตัวมาเป็นเพื่อนสมัยเด็กของพระเอก แต่เปล่าเธอกำเนิดมาเป็นคู่หมั้นคู่หมายของพระเอกเราเลยทีเดียว เห็นหน้าสวยๆ คมๆ แบบนี้ แต่บุคลิกในละครเหมือนเธอจะโก๊ะๆ นิดหน่อย แม้จะเป็นสาวนักเรียนนอก(รัสเซีย) ก็ตาม ชัดเจนว่าเอามาจับคู่ให้ กู ซึงจุน แน่นอน
ด้านตัวบท
คือต้องชื่นชมความใส่ใจของทีมเขียนบทที่สามารถสอดแทรก ‘ความจริง(บางส่วน)’ ลงไปในเรื่องสมมติได้อย่างลื่นไหลและเฉียบคม เพราะทั้งเรื่องเราจะได้เห็นมุกตลกร้ายระหว่างคนเกาหลีใต้(นางเอก) และคนเกาหลีเหนือ(พวกพระเอก) เช่น “เมื่อเรารวมประเทศกัน ฉันจะ…” ที่หากว่าใครได้ดูก็จะรู้ว่ามันฮาและน่าเอ็นดูแค่ไหนตอนที่พูดออกมา แต่ความเป็นจริงแล้วมันช่างน่าเศร้าและขมขื่นเหลือเกิน เพราะเรารู้กันดีอยู่แล้วว่าประโยคนี้มันเกิดขึ้นจริงได้ ‘ยาก’ แค่ไหน
เช่นเดียวกันกับฉากหนึ่งที่นางเอกพูดกับพระเอกก่อนจะจากกันว่า “ ฉันไปถึงแอฟริกา ไปถึงขั้วโลกใต้ก็ยังได้ น่าเสียดายนะที่คุณดันอยู่ที่นี่ ” ใช่ คำบอกลานี้มันอาจจะไม่ได้ลึกซึ้งกินใจอะไรนัก ถ้ามันไม่ได้อยู่ในเรื่องราวของผู้หญิงเกาหลีใต้คนหนึ่ง ที่เริ่มรู้ตัวแล้วว่ากำลังตกหลุมรักชายชาวเกาหลีเหนือคนนั้น …มันจึงเป็นบทสนทนาที่แสนจะง่ายดาย แต่ทว่ามันกลับสร้างความรู้สึกและตกตะกอนอะไรบางอย่างในใจเราได้มากมาย เรียกได้ว่าแค่ 4 ตอนแรก ซีรีส์เรื่องนี้ก็ตีโจทย์ของความรักบนความเจ็บแบบหน่วง ๆ ได้แตกกระจุยไปเลยทีเดียว
ด้านคุณภาพ
เรื่องความสวยงามของงานภาพและดนตรีประกอบ ก็ยังคงท็อปฟอร์มในสไตล์เกาหลีแบบไม่มีตกหล่น จะเรียกว่าเป็นเพราะเสน่ห์และความขลังของสถานที่ต่าง ๆ ในเกาหลีเหนือที่สามารถสะกดเราไว้ให้อยู่กับหน้าจอได้ตลอดก็ว่าได้ มันจึงทำให้เราอยากดูอีก อยากเห็นอีก อยากจะรู้จักมุมมองต่าง ๆ ให้มากกว่านี้อีก แถมเรื่องเคมีนักแสดงแต่ละคนนี่ก็แทบไม่มีมีอะไรให้น่าเป็นห่วง …ฟินหมอนขาดแน่นอน
สิ่งที่ชอบ
สิ่งหนึ่งที่ประทับใจเราที่สุดก็คือ ซีรีส์เรื่องนี้ทำหน้าที่ ‘สะท้อนสังคม’ ได้อย่างสร้างสรรค์และน่าสนใจ เพราะมันกล้าพูดกล้านำเสนอสังคมในด้านที่คนดูอยากเห็นและให้ความสนใจได้จริง ทั้งเรื่องความเหลื่อมล้ำของทั้งสองประเทศ เรื่องความต่างของภาษา ปัญหาคอร์รัปชันในกองทัพ
และชีวิตความเป็นอยู่ของสองสังคมที่แม้จะใกล้กันแค่ไหนแต่ก็เหมือนกับคนไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ผ่านเรื่องราวครบรสที่มีทั้งความรัก ความฮา สืบสวนปริศนา และบู๊ระห่ำได้อย่างอร่อยกลมกล่อม ถือเป็นอีกหนึ่งงานคุณภาพจากแดนกิมจิที่เหมาะสมจะเป็นซีรีส์ฟอร์มยักษ์สำหรับปลายปีนี้จริง ๆ
โดยรวม
ชอบจริง ๆ เวลาที่หนังหรือซีรีส์เกาหลีพยายามจะนำเสนอความแปลกใหม่ผ่านพล็อตเรื่องหรือแง่มุมของอาชีพแปลก ๆ ที่เรามักจะไม่ค่อยได้พบเห็นหรือแม้กระทั่งให้สนใจในเบื้องลึกของเรื่องราวเหล่านั้นซะด้วยซ้ำ เช่นเดียวกับซีรีส์เกาหลีเรื่องนี้ " Crash Landing On You ปักหมุดรักฉุกเฉิน " ที่เราค่อนข้างเซอร์ไพรส์อยู่เหมือนกัน กับการหยิบเอาเรื่องราวและวิถีชีวิตของ " เหล่าสหายในเกาหลีเหนือ " ดินแดนลับตาที่ทั้งโลกแทบไม่เคยได้สัมผัส
มาร้อยเรียงให้เข้ากับเรื่องราวความรักโรแมนติกของหญิงชาย ในสไตล์ซีรีส์เกาหลีออริจินัลที่มีเรื่อง " ความรักบนเส้นขนาน " เป็นจุดขายสำคัญของเรื่อง ประหนึ่งว่ากำลังดู " คู่กรรมเวอร์ชันเกาหลี " อยู่ก็มิปาน (ศัพท์ก็เก่าเกิ๊นน) คือแค่ได้อ่านเรื่องย่อคร่าว ๆ ที่หน้าเว็บไซต์ Netflix ก็สามารถตกคนให้เข้าไปดูต่อได้ไม่ยากแล้วอะ
ซึ่งเราต่างรู้กันดีอยู่แล้วว่าประเทศเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้มีปมขัดแย้งอะไร และมันจะกลายเป็นเรื่องราวอันตรายแค่ไหน ถ้านางเอกของเรื่องอย่าง "ยุนเซรี " บังเอิญร่อนเครื่องร่อนแล้วตกลงไปในระหว่างพรมแดนเกาหลีเหนือ-เกาหลีใต้ หรือที่รู้จักกันในชื่อ " DMZ เส้นขนานที่ 38 " ซึ่งในขณะนั้น " รีจองฮยอก " พระเอกของเราก็กำลังลาดตระเวนอยู่ในพื้นที่นั้นพอดี
สรุป
ความน่าสนุกอย่างแรกของเรื่องที่อยากจะพูดถึงนั่นก็คือ การที่ซีรีส์สามารถพาคนดูไปเบิกเนตร เพิ่มความรู้ให้สมอง และเปิดมุมมองใหม่ของประเทศลับแลอย่าง ‘เกาหลีเหนือ’ ได้กว้างขวางอย่างที่เราแทบไม่เคยได้เห็นในซีรีส์เกาหลีเรื่องไหนมาก่อนเลยก็ว่าได้ ยอมรับเลยว่าตื่นตาตื่นใจเและตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย ที่ได้เห็นได้รู้จักแง่มุมและวิถีชีวิตฉบับคนเกาหลีเหนือมากขึ้น
ผ่านการนำเสนอที่ทั้งละเอียดอ่อนและด้วยงานภาพที่สวยงามตระการตา ที่ถึงแม้เราจะรู้ดีอยู่แล้วว่าบางอย่างในภาพเหล่านั้น มันอาจจะไม่ได้สวยงามอย่างที่เราเห็น(เช่นฉากวิ่งบนทุ่งสังหาร) แต่มันก็ทำให้มุมมองที่เคยมีต่อประทศเกาหลีเหนือนั้นเปลี่ยนไปได้มากอยู่เหมือนกัน (นี่สินะอิทธิพลของสื่อ)
เกาหลีเหนือ & เกาหลีใต้
ทุกคนคงพอรู้กันอยู่แล้วเกาหลีเหนือ และเกาหลีใต้ แม้จะใช้ชื่อว่า “เกาหลี” เหมือนกัน แต่ 2 ประเทศนี้มีความแตกต่างระดับที่เรียกได้เลยว่า “ตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง” ไม่ว่าจะเป็นการปกครอง, ความเป็นอยู่, ระบบเศรษฐกิจ, ทัศนคติ และอื่นๆ อีกมากมาย คงมีเพียงแต่ภาษาเท่านั้นที่ยังใช้เหมือนกันอยู่ ทีนี้เพื่อให้อินกับซีรี่ส์มากขึ้นใครที่พอมีเวลาสัก 10 นาที เชิญไปแวะชมคลิปของคุณวิวได้ที่ “สรุปสงครามเกาหลี” ดูนะครับว่าทำไม 2 ประเทศนี้ถือแยกกันได้ และมีความแตกต่างกันขนาดนี้ เผื่อเข้าใจความลำบากของการพบกันของคนทั้ง 2 ฝั่ง หรือสถานการณ์บางอย่างในซีรี่ส์ที่เราคิดว่า “โห…มันขนาดนั้นเลยหรอ?” ครับมันเป็นแบบนั้นแหละ
Commenti