รีวิว Dead To Me Season 2 - เดด ทู มี
ต้องบอกเลยว่าซีซั่น 2 สนุกมากกว่าซีซั่น 1 ซะอีก เหมือนผู้สร้างไม่ต้องรออุ่นเครื่องให้คนดูเข้าใจแนวทางของเรื่องนี้ที่เกี่ยวกับความผิดบาปทุกข์ในใจ และการโกหกหลอกลวงที่ตั้งอยู่บนมิตรภาพความเป็นเพื่อนอีกที ผู้สร้างจึงจุดเครื่องสตาร์ทติดทันทีตั้งแต่ตอนแรกไล่ยาวจนครบ 10 ตอนแบบแทบไม่มีช่วงไหนแรงตกเลยแม้แต่น้อย รีวิว Dead To Me Season 2
เรื่องย่อ
หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังบ้านที่ต้องเก็บไว้เป็นความลับ เจ็นเเละจูดี้ต้องกลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิม เเละทำให้คนรอบข้างรู้สึกว่าไม่มีอะไรน่าสงสัยเเละอะไรเกิดขึ้นจากเหตุการณ์นั้น
ในขณะที่นิวฟีดส์เต็มไปด้วยข่าว Netflix ยกเลิกภาคต่อของซีรีส์หลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็น Everything Sucks และ Santa Clarita Diet ที่แม้จะทิ้งปมในตอนสุดท้ายว่าต้องมีซีซันต่อไปแน่ๆ แต่กลับถูกปิดโปรเจกต์ไปดื้อๆ จนแฟนซีรีส์หลายคนเริ่มใจคอไม่ดีว่าซีรีส์เรื่องโปรดของตัวเองจะได้ไปต่อหรือเปล่า
แต่อย่างน้อยแฟนๆ ของ Dead to Me ที่เพิ่งออกอากาศให้ได้รับชมทาง Netflix เมื่อเดือนก่อนก็สบายใจได้ เพราะซีรีส์ที่มีเอกลักษณ์และเสน่ห์ของตลกร้าย จิตป่วน ลึกลับ เข้มข้น การันตีด้วยคะแนนมะเขือสดในเว็บไซต์ Rotten Tomatoes สูงถึง 87% ได้รับการยืนยันว่าได้ ‘ไปต่อ’ ซีซัน 2 เป็นที่เรียบร้อย
ลิซ เฟลด์แมน ครีเอเตอร์และโชว์รันเนอร์ซีรีส์ Dead to Me ได้กล่าวในงาน FYSee นิทรรศการโปรโมตออริจินัลคอนเทนต์ของ Netflix ว่า “เรื่องราวในซีซัน 2 จะเริ่มต้นต่อจากตอนจบซีซันแรกทันที และจะเพิ่มความสนุกโดยเฉพาะพาร์ตดราม่าให้เข้มข้นขึ้นไปอีกอย่างแน่นอน”
เหตุผลหนึ่งที่ทำให้ Dead to Me ประสบความสำเร็จและได้ไปต่อในซีซันที่ 2 ก็เพราะนี่ไม่ใช่ซีรีส์อาชญากรรมที่พุ่งเป้าไปที่การหาคนผิดเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการให้คนดูและตัวละครค่อยๆ เรียนรู้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นไปพร้อมๆ กัน โดยจุดร่วมที่ทำให้คนดูรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งในความสัมพันธ์ของเจนและจูดี้คือท้ายที่สุดแล้วทุกคนล้วนมีปัญหา และมีวิธีจัดการกับปัญหา ความทุกข์ ความเจ็บปวดที่แตกต่างกันไป
Dead to Me เป็นผลงานสร้างของ ลิซ เฟลด์แมน นำแสดงโดย คริสตินา แอปเปิ้ลเกต, ลินดา คาร์เดลลินี, เจมส์ มาร์สเดน, เอ็ด แอสเนอร์ และแบรนดอน สก็อตต์ สร้างสรรค์โดย CBS Television Studios สำหรับวันออกอากาศของซีซัน 2 ยังไม่มีการประกาศออกมา แต่คาดว่าจะภายในปี 2020
เนื้อเรื่อง
เรื่องราวมาพร้อมกับการกลับด้านจากทุกข์กับบาปในใจของจูดี้ในซีซั่นแรก เมื่อเจนกลายเป็นตกที่นั่งลำบากแบบเดียวกันจากการพลั้งมือฆ่าสตีฟแฟนของจูดี้ จนต้องแบกรับชะตากรรมนั้นดูบ้าง ซึ่งก็กลายเป็นว่าเธอก็พยายามทำแบบเดียวกันกับที่จูดี้เคยทำกับเธอ แม้จะบอกว่าพลั้งมือฆ่าสตีฟจากการที่จะโดนสตีฟทำร้าย
แต่กลายเป็นว่ามีเรื่องราวที่แท้จริงหนังใหม่เต็มเรื่องซ่อนอยู่ในนั้นอีกเยอะมากกว่าที่เห็นในตอนจบซีซั่นแรก ที่ค่อยๆ เฉลยมาทีละนิดๆ และก็ผูกโยงกลับไปที่อุบัติเหตุชนแล้วหนีในซีซั่นแรกได้อย่างสมเหตุผล กลายเป็นปมใหม่ที่มีที่มาที่ไปจากปมเก่าแบบสับสนวุ่นวายมากกว่าเดิม จนไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วใครผิดกันแน่ในเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น
การเปลี่ยนจากคดีชนแล้วหนี มาเป็นคดีฆาตกรรมซ่อนศพ?
การเปลี่ยนเรื่องจากคดีชนแล้วหนีมาเป็นคดีฆาตกรรมซ่อนศพก็ทำได้ดี มีเหตุผลบอกตั้งแต่แรกว่าทำไมเจนถึงไม่ไปแจ้งตำรวจ ซึ่งก็ทำให้คนดูเข้าใจได้แบบสมเหตุผล แม้ซีซั่นนี้จะเกี่ยวกับศพตรงๆ ตลอดเรื่อง แต่ก็ไม่ได้ทำในแบบน่ากลัวสักเท่าไหร่ แม้จะมีฉากศพให้เห็นอยู่บ้าง
แต่ก็ออกแนวตลกร้ายไปกับความพยายามของสองคนนี้ที่ช่วยกันปิดบังอำพรางคดี ในขณะที่ตำรวจกับ FBI พยายามตามหาสตีฟว่าอยู่ไหน เรื่องเดินไปแบบทำให้ทั้งคู่ต้องเจอกับปัญหาซ่อนศพชวนปวดหัวต่างนานา และก็ต้องหวาดเสียวเมื่อทั้งตำรวจและคนรอบตัวทั้งคู่เริ่มสงสัยว่าทั้งคู่พยายามปิดบังอะไรสักอย่างอยู่แน่ๆ
ปมใหม่ และตัวละครใหม่
ในส่วนของมิตรภาพของทั้งคู่ก็ยังทำได้ดีเหมือนเดิม แม้ดูเหมือนว่าซีซั่นแรกจะหยิบมาเล่าไปเยอะแล้ว แต่กลายเป็นว่าซีซั่น 2 เรื่องยังสามารถใส่ปมและความน่าสนใจใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาได้อีกจากการที่มีตัวละครอื่นมาเกี่ยวข้อง เป็นเพื่อนสาวคนใหม่ของจูดี้ รวมถึงตัวละครไม่คาดคิดว่าจะกลับมาได้ก็กลับมาอีกครั้ง
เรื่องไม่ทิ้งตัวละครในซีซั่นแรกไปเอากลับมาหมด และก็เพิ่มน้ำหนักความสำคัญขมวดตึงเข้ากับเรื่องได้ขึ้นไปอีก เพราะทุกคนเริ่มเข้ามาเกี่ยวกับคดีในคราวนี้มากขึ้น ต่างจากในซีซั่นแรกที่อยู่ห่างๆ เป็นแค่ปัญหาของทั้งสองคนเท่านั้น
ซีซั่นนี้ลดเรื่องดราม่าเครียดๆ ที่มีในซีซั่นแรกหายไปแทบทั้งหมด แต่ก็ยังมีปมของเรื่องความทุกข์ใจจากการโกหกอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง แถมทวีคูณหนักขึ้นกว่าเดิมเพราะกลายเป็นทั้งคู่ต้องช่วยกันโกหก แต่ดันพูดไม่ตรงกันเป็นประจำ แถมเจนยังโกหกจูดี้ซ้ำลึกกว่าหนักกว่าที่จูดี้เคยโกหกเจนในซีซั่นแรกซะอีก
หนังยังคงมีส่วนตลกร้ายที่ทำได้อยู่หมัดเหมือนเดิม แถมยังเพิ่มดีกรีตลกมากกว่าเดิมแบบรู้สึกได้ว่าเราขำได้หลายครั้งกว่าเดิม เว็บหนัง HD อาจจะเพราะพอเรื่องลดดราม่าหนักๆ หายไปทำให้เปิดโอกาสให้เล่นกับจังหวะตลกได้เต็มที่
ตัวเรื่องเปิดคดีใหม่ขึ้นมา และก็คลี่คลายเรื่องราวไปในตอนท้ายได้เกือบทั้งหมด จากนั้นก็เปิดปมใหม่เรื่องคดีชนแล้วหนีกลับมาอีกครั้งได้อย่างเหมาะเจาะ ต้องบอกว่าคนเขียนบทเรื่องนี้เก่งจริงที่โยงเรื่องวนกลับทับซ้อนไปมาได้อย่างน่าติดตามมากๆ เรียกว่าซีซั่น 2 นี้แรงดีไม่มีตกเลย แถมพาเรื่องให้ซับซ้อนวุ่นวายขึ้นได้อีกหลายเท่าแน่ๆ
โดยรวม
ส่วนตัวมองว่านี่คือซีรีส์ที่มาถึงซีซั่นที่ 2 เเล้ว ทำได้ดีกว่าซีซั่นที่เเล้วเสียอีก เเม้จะมีช่วงขัดใจเเละความน่ารำคาญอยู่บ้าง เเต่ก็สามารถทำได้ดีตามมาตรฐานที่ซีซั่นเเรกได้ตั้งไว้อย่างดีเลยทีเดียว ส่วนนักเเสดงก็เล่นดีทุกๆคนเลย โดยเฉพาะสองบทนำที่ได้นักเเสดงหญิงทั้งสองคนที่มากฝีมือ
คริสติน่า เเอปเปิ้ลเกท เเละลินดา คาร์เดลลินี่มารับบทนี้ ก็ทำหน้าที่ได้สมกับบทบาทที่พวกเขาได้รับได้ดีเลยทีเดียว ส่วนข้อเสียก็ มีอยู่บ้างอย่างการทิ้งค้างจากตอนจบที่รู้สึกว่ามากไปหน่อย ปมบางปมที่ยังขยี้ไม่ค่อยสุดเเละบางจุดที่ยังขาดความสมเหตุสมผลไปบ้าง เเต่รวมเเล้วนี่คือภาคต่อของซีรีส์ที่หลายคนอาจจะมองข้าม เเต่ยอมรับเลยว่าดูเพลินตั้งเเต่ต้นยันจบเเน่นอน เเม้จะจุดที่รำคาญอยู่บ้าง
สรุป
ซีซั่น 2 เหมือนไม่ต้องปูดราม่าแล้วจึงจัดเต็มกับตลกร้ายได้เต็มที่โดยไม่เสียเวลาใส่ดราม่าเพิ่มอีกแล้ว แถมด้วยความซับซ้อนผูกโยงกันวุ่นวายในคดีต่อเนื่องจากซีซั่นแรก ที่ทำได้สนุกเฮฮามากกว่าเดิมหลายเท่า ตลอดตั้งแต่ตอนแรกยันตอนจบเลย
Comments